ไขข้อข้องใจ ระบบขับเคลื่อนแบบไหนดีที่สุด
Car Raver Car Raver
270K subscribers
662,166 views
0

 Published On May 3, 2020

เริ่มจากระบบขับเคลื่อนล้อหน้า Font Wheel Drive (FWD)
ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นระบบที่ใช้กับรถยนต์ที่มีขนาด เล็ก เพื่อให้เกิดความประหยัดเชื้อเพลิง และยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารอีกด้วย เมื่อน้ำนักของเครื่องยนต์ได้ตกลงบนล้อที่ใช้ในการขับเคลื่อนจึงทำให้เกิดเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีขึ้น ตัวอย่างรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า นั้นจะเป็นรถยนต์ซีดานที่ใช้งานทั่วๆไป เช่น Toyota vios ,Honda city ,Nissan almera เป็นต้น

ระบบขับเคลื่อนแบบ FWD หรือ ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า มี จุดเด่นในด้านสมรรถนะการเร่งเนื่องจากแรงม้าถูกส่งจากเครื่องสู่ล้อคู่หน้าโดยตรง แต่ก็อาจจะมีจุดอ่อนในเรื่องการยึดเกาะอยู่บ้าง
เนื่องจากล้อคู่หน้าต้องทำงานหนักมากทั้งรับน้ำหนักจากเครื่องยนต์ ทำหน้าที่ขับเคลื่อน และยังต้องใช้บังคับทิศทางอีกด้วย ทำให้รถ FWD มักจะมีอาการ “หน้าดื้อ” เลี้ยวไม่ไปเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง
ในขณะเดียวกันก็มีอาการ ”หน้าไว” เมื่อขยับพวงมาลัยอย่างรวดเร็วทำให้รถเสียการทรงตัว

2.ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง Rear Wheel Drive (RWD)
ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง เป็นระบบขับเคลื่อนที่เหมาะกับรถที่มีพละกำลังเครื่องยนต์ที่สูง
และตัวถังรถยนต์ที่มีน้ำหนักมาก เพราะระบบขับเคลื่อนล้อหลังนั้นมีประสิทธิภาพในการขับที่ดีกว่าระบบอื่น ส่วนใหญ่ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง จะเป็นระบบขับเคลื่อนที่ใช้ในรถกระบะ รถแข่ง รถ Sport รวมไปถึงรถระดับ SuperCar เราจึงจะเห็นรถกระบะแทบทุกรุ่นมีระบบขับเคลื่อนเริ่มต้นคือแบบขับหลัง

สิ่งที่ระบบขับเคลื่อนล้อหลังทำได้ดีกว่าก็คือ การรับมือกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แรงม้าสูง
มีการกระจายน้ำหนักตัวที่ดีกว่า FWD และตอบสนองการเข้าโค้งได้ดีกว่า จากการลดภาระของล้อหน้า เนื่องจากล้อหน้าจะทำหน้าที่แค่บังคับทิศทางซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม นิยมในพวก Sport Cars High-Performance Sedan และ Race Car ยังคงใช้ระบบการขับเคลื่อนนี้อยู่ในปัจจุบัน
แต่ทั้งนี้ก็มาพร้อมอาการ Oversteer หรืออาการท้ายปัด ถ้ามีแรงบิดมากเกินไป
ซึ่งแก้ไขค่อนข้างยาก แต่ถ้าคุ้นเคยกับมันก็ควบคุมได้
และหลายคนก็อาศัยจุดด้อยนี้มาเป็นจุดเด่น จนขึ้นมาเป็นนักดริฟรถระดับโลกได้มาแล้วหลายคน

3.ระบบขับเคลื่อน All Wheel Drive (AWD) หรือระบบขับเคลื่อนแบบ4 ล้อตลอดเวลา
ระบบการขับเคลื่อน AWD ที่หลายคนมักจะสับสนกับระบบ 4x4
ฉนั้นวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้กระจ่างกัน รถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AWD นั้นจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าโดยการหมุนของล้อทั้ง 4 อยู่ตลอดเวลาโดยอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นระบบการขับเคลื่อนที่ทรงพลังและยึดก็ถนนได้มากกว่าระบบขับเคลื่อนอื่นๆ

ดังนั้น จุดแข็งของระบบขับเคลื่อนนี้ จึงอยู่ที่การป้องกันการลื่นไถล ยึดเกาะถนนได้ยอดเยี่ยมทุกสภาพถนนและการเข้าโค้ง การตะกุยผิวถนนอย่างมีสมดุลย์จากแรงบิดที่ส่งไปล้อทั้ง 4พร้อมกันตลอดเวลา
เป็นเหมือนการรวมเอาจุดดีของทั้ง FWD และ RWD มาผสมผสานกันอย่างลงตัว แต่ในขณะเดียวกันด้วยการที่ต้องกระจายกำลังขับไปให้ทั้ง4 ล้อในเวลาเดียวกัน รถ AWD จึงสูญเสียอัตราเร่งมากที่สุด
เมื่อแบบเทียบกับระบบ FWD หรือ RWD หมายถึงหากใช้รถรุ่นเดียวกัน มาแยกระบบขับเคลื่อน
การออกตัวหรือเร่งแซง ระบบ AWD จะทำได้ช้าสุดในสภาพถนนปกติ แต่หากในสภาพถนนที่ต้องการการยึดเกาะสูง เช่นสภาพอากาศที่มีหิมะปกคลุม คงไม่มีระบบไหนที่จะมีประสิทธิภาพไปมากกว่า AWD


4.ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Four Wheel Drive หรือที่หลายคนชอบเรียกว่า 4x4
สำหรับรถที่มีระบบขับเคลื่อนแบบ 4x4 โดยมากคนมักจะเข้าใจผิดว่า เป็นการขับเคลื่อน 4ล้อพร้อมกันตลอดเวลาเหมือน AWD แต่ในความเป็นจริงแล้ว การขับเคลื่อนแบบ 4x4 จะใช้การขับเคลื่อนที่ล้อหลังเป็นหลักจนกว่าผู้ขับขี่จะเปิดโหมดใช้งานขับเคลื่อนสี่ล้ออาจจะผ่านคันเกียร์ หรือปุ่มกดก็ได้
ตามความทันสมัยและเทคโนโลยีในรถคันนั้นๆ
และส่วนใหญ่ของการเปิดโหมดขับเคลื่อน 4ล้อ ของรถประเภทนี้จะต้องอยู่ในรอบเครื่องยนต์ต่ำเท่านั้น เราจึงมักจะพบกับการขับเคลื่อนแบบนี้ได้ในรถที่ไม่ต้องการความเร็วสูง แต่ส่วนใหญ่จะใช้งานขึ้นทางชันหรือรถที่ต้องการบรรทุกของหนักๆเนื่องจากต้องการการควบคุมที่ดี และการส่งกำลังฉุดลากขึ้นที่สูงจากทั้ง 4ล้อ และเมื่อสภาพถนนปกติ ก็สามารถสลับมาใช้โหมดขับเคลื่อนล้อหลังได้
เพื่อลดการทำงานหนักของล้อหน้า แถมช่วยในเรื่องของการประหยัดเชื้อเพลิง

show more

Share/Embed