เราคนไทยทุกคนล้วนคุ้นเคยคำว่า "กตัญญู" มาจากรุ่นสู่รุ่น แต่ด้วยสภาพบริบทสังคมที่เปลี่ยนไปตามกาล และเวลา คำว่ากตัญญูในรูปแบบเดิมอาจจะเป็นกรอบที่เล็กเกินไปที่จะยังนำกลับมาใช้กับการเปลี่ยนแปลงของประชากรศาสตร์รุ่นใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน ที่นี่เราต้องเดินทางไปกับคำว่า "กตัญญู" ในเรื่องราวของคุณ นิ้ง ลลิตา ลูกสาวบ้านคนจีน ที่ปฏิบัติตนตามหลักกตัญญูของบ้านมาตลอดจนได้เข้าเรียนคณะรัฐศาสตร์ คำถามจึงเกิดขึ้น สิ่งนี้มีหมายความว่าอะไรสำหรับแต่ละคน? ความกตัญญูที่เราเคยเข้าใจมันสามารองรับกับการใช้ชีวิตของทุกชนชั้นในสังคมมั้ย ? และหากเราสร้างความเข้าใจ "กตัญญู" ขึ้นใหม่ คำว่า "กตัญญู" ของคุณจะคืออะไร?

As Thais, we are all familiar with the concept of "Gratitude" passed down from generation to generation. However, in a society that evolves with time and context, the traditional notion of "Gratitude" may seem too rigid to be applied to the changing demographics of today. Here, we embark on a journey with your story, Ning Lalita, a Chinese-Thai daughter who has adhered to her family's principles of "Gratitude" throughout her life, even while studying political science at university. This raises questions: What does this mean for each of us? Does the concept of "Gratitude" accommodate the lifestyles of all social strata? And if we were to redefine our understanding of "Gratitude," what would it mean for you? นิสิตนักศึกษาภาควิชา รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เป็นทั้งเจ้าของธุรกิจแบรนด์จิวเวลรี เเละtiktoker ผู้ที่สนใจในการเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เเละสังคมศาสตร์ ที่อยากจะผลักดันให้ผู้คนรับฟัง เเละเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น เพื่อนำไปสู่สังคมที่โอบกอดทุกคน ผ่านมุมมองนักศึกษาคณะสังคมศาสตร์ This talk was given at a TEDx event using the TED conference format but independently organized by a local community. Learn more at https://www.ted.com/tedx